ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของขาติทางทะเลเขต ๑ จับเรือประมงเวียดนาม ๑๒ ลำ ลูกเรือ ๑๐๘ ชีวิต รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของขาติทางทะเลเขต ๑ จับเรือประมงเวียดนาม ๑๒ ลำ ลูกเรือ ๑๐๘ ชีวิต รุกล้ำน่านน้ำไทย

พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต ๑ (ศรชล.เขต ๑) ได้บูรณการร่วมกับ ๕ หน่วยงาน ประกอบด้วย ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ระยอง) ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๑ ตำรวจน้ำจังหวัดระยอง  กรมเจ้าท่า  และกรมศุลกากร ปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่รุกล้ำทำการประมงในน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพาะด้านอ่าวไทยตอนบน เหนือเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง หลังได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มเรือประมงไทย เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๕ จึงได้สั่งให้ เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงคีรีรัฐ และเรือหลวงท้ายเหมือง พร้อมกำลังพลประจำเรือ และกำลังพลชุดปฏิบัติการพิเศษ ไปยังจุดตำบลที่ตั้งของกลุ่มเรือเป้าหมาย และอากาศยานซีฮอร์ค จำนวน ๒ ลำ บินลาดตระเวนชี้พิกัดกลุ่มเรือ ภารกิจครั้งนี้ได้ใช้เวลานานร่วม ๑๐ ชั่วโมง สามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน ๑๐ ลำ พร้อมไต๋และลูกเรือรวม ๑๐๘ ชีวิต โดยลูกเรือทั้งหมดได้ถูกลำเลียงขึ้นเรือรบหลวง ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทางทีมแพทย์ประจำเรือได้ทำการตรวจเช็คสภาพร่างกาย พร้อมให้ยาสามัญกับผู้ป่วย รวมถึงอาหารและน้ำ ก่อนลูกเรือทั้งหมดจะถูกลำเลียงขึ้นยังยังท่าเทียบเรือศูนย์อนุรักษ์ชายฝั่งทะเล ตำบลบ้านเพ จังหวัดระยอง เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหาทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยไทยในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หนีเข้าเมาในราชอาณาจักไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดตามพระราชบัญญัติสิทธิทำการประมง

   

   

   

   

   

   

   

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้