กองทัพเรือ

พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ พร้อมฝ่ายอำนวยการ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังพลบนเรือหลวงสายบุรี ขณะออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่ทะเลฝั่งอันดามันในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ ๓ โดยมี นาวาเอก เจษฎา คงคล้าย ผู้บังคับการเรือ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของเรือให้กับคณะได้รับทราบ สำหรับความพร้อมในการปฏิบัติงานของเรือจะมีการฝึกประจำสถานีรบและการลำเลียงผู้ประสบภัยด้วยเครนเรือช่วยชีวิต การตรวจเยี่ยม เรือประมง ชื่อเรือรุ่งนภาชัย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทยไม่ทำการประมงล้ำเข้าไปในเขตประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๗

ในการนี้ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ได้ให้โอวาทกำลังพลที่ปฏิบัติงานบนเรือ ใจความสำคัญว่า “การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เขตชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นพื้นที่สำคัญ กำลังพลของทุกหน่วยต้องเตรียมพร้อมทั้ง องค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี และที่สำคัญอย่างยิ่ง กำลังพลทุกนาย ณ ที่นี้ ได้ติดตราธงราชนาวีที่ไหล่ซ้าย ก็ขอให้ในการปฏิบัติตัวในพื้นที่นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้รักษาเกียรติของราชนาวีไว้อย่างสูงสุด โดยเราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส”

สำหรับเรือหลวงสายบุรี (FFG-458) เป็นเรือลำที่ ๔ ในชุดเรือฟริเกต ชุดเรือหลวงเจ้าพระยา สังกัด กองเรือฟริเกตที่ ๒ กองเรือยุทธการ โดยใช้แบบเรือฟริเกต แบบ 053 HT ชั้นเจียงหู ของประเทศจีน โดยเรือหลวงสายบุรี มีความยาว ๑๐๓.๒ เมตร ความกว้าง ๑๑.๓ เมตร กินน้ำลึก ๓.๑ เมตร ระวางขับน้ำปกติ ๑๖๗๖ ตัน ระวางขับน้ำเต็มที่ ๑,๙๒๔ ตัน มีใบพัด ๒ เพลา และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ MTU 20V201163TB83 สี่เครื่องที่มีกำลัง ๒๙,๔๔๐ แรงม้า เรือมีระยะทำการ ๓,๕๐๐ ไมล์ทะเล (๖,๕๐๐ กิโลเมตร) ขณะแล่นด้วยความเร็ว ๑๘ นอต (๓๓ กิโลเมตร/ชั่วโมง) และความเร็วสูงสุด ๓๐ นอต (๕๖ กิโลเมตร/ชั่วโมง) กำลังพลทั้งหมด ๑๖๘ นาย

การตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังพลที่ปฏิบัติงานบนเรือหลวงสายบุรี เป็นไปตามนโยบายของ พลเรือเอก จิรพล
ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ว่า “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ” และ “เทิดทูนสถาบัน ป้องกันรัฐ พัฒนาชาติ ราษฎร์ศรัทธา”