กองทัพเรือ

ทัพเรือภาคที่ ๒ จัด เรือ ต.๑๑๓ ให้การช่วยเหลือลูกเรือประมง ๗ ชีวิต ลอยคอกลางทะเลท่ามกลางคลื่นลมแรง หลังเรือประสบเหตุเรือจม พบผลเป็นบวก ๑ ราย

เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๒๑.๓๐ น. ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศรชล.จ.สุราษฎรธานี) ว่าเรือประมง พ.ธีรวุฒินาวี ๒ ได้แจ้งขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์รับแจ้งเรือเข้า - ออกสุราษฎร์ธานีว่า ขณะออกเรือทำการประมงประสบกับสภาพอากาศเลวร้าย คลื่นในทะเลใหญ่มีน้ำเข้าเรือ และเรือกำลังจะจม บริเวณระยะ ๑๘ ไมล์ จากปลายแหลมโจรคร่ำ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการนี้ พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ ได้สั่งการให้กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ ๒ โดย พลเรือตรี พิจิตต ศรีรุ่งเรือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ ในฐานะผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ ๒ จัดเรือ ต.๑๑๓ ออกเดินทางจากสถานีเรือสมุย เข้าดำเนินการค้นหาอย่างเร่งด่วน

ต่อมาในเวลา ๒๓.๒๐ น. ได้รับแจ้งจาก เรือเอก กฤษฎา ศรีปริยัติ ผู้บังคับการเรือ ต.๑๑๓ ว่าอยู่ห่างจากจุดที่เรือประมงประสบเหตุประมาณ ๗ ไมล์ โดยลักษณะอากาศท้องทะเลมีคลื่นลมแรง มีกลุ่มฝนเป็นอุปสรรคในการค้นหา จนกระทั่ง เวลา ๐๑.๐๐ ของวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ เรือ ต.๑๑๓ ได้เดินทางถึงบริเวณจุดเกิดเหตุและพบว่าเรือลำดังกล่าวได้จมลงแล้ว โดยมีลูกเรือทั้งหมด ๗ คน กำลังลอยคอขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ประจำเรือ ต.๑๑๓ จึงได้เข้าให้ความช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมดและนำขึ้นมาบนเรืออย่างปลอดภัย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทั้ง ๗ คน พบว่าเป็นคนไทย ๓ คน และคนพม่า ๔ คน จากนั้น เจ้าหน้าทีได้ดำเนินการคัดกรองโรค Covid – 19 ในเบื้องต้นด้วยชุดตรวจ ATK และการวัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งจากการตรวจพบลูกเรือมีผลเป็นบวก จำนวน ๑ คน ที่เหลืออีก ๖ คน ผลเป็นลบ จึงได้แยกลูกเรือไว้บริเวณท้ายเรือ

จนกระทั่งในเวลา ๐๓.๑๕ น. เรือ ต.๑๑๓ ได้เดินทางถึงเกาะสมุย เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเกาะสมุยได้นำลูกเรือ ทั้ง ๗ คนเข้ารับการตรวจร่างกายและกักตัวตามมาตรการ ในขณะที่กำลังพลประจำเรือ ต.๑๑๓ ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับลูกเรือประมงจำนวน ๙ นาย ได้แยกกักตัวที่ศูนย์พักคอย (Community Isolation) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid – 19 ต่อไป

ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบต่าง ๆ ของกองทัพเรือ เป็นไปตามนโยบายของกองทัพเรือและเจตนารมณ์ของ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่มุ่งเน้นให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น มีความรักความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดำรงขีดความสามารถของกองทัพเรือในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ "รวมใจภักดิ์ รักชาติ ราษฏร์ศรัทธา"