เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๑.๐๐ น. พลเรือโท สุรศักดิ์ เมธยาภา ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ ๑ ได้รับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ ๑ ว่ามีเรือประมง ชื่อ ส.ทรัพย์สมุทร ๒ เป็นเรือลอบปูมีลูกเรือทั้งหมด ๘ คน มีไต๋เรือ ชื่อ นายอัครพงษ์ วิกล และลูกเรือชาวกัมพูชาอีก ๗ คน ถูกเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ชนจนอัปรางลงกลางทะเลห่างจากเกาะริ้น อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประมาณ ๓ ไมล์ ในร่องน้ำเรือสินค้า เมื่อเวลา ๒๓.๐๐ น. วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ก่อนที่เรือประมงในระแวกนั้นจะสามารถช่วยเหลือไปได้แล้ว ๕ คน ซึ่งเป็นลูกเรือชาวกัมพูชาทั้งหมด ขณะลอยคออยู่กลางทะเลนานกว่า ๘ ชั่วโมง เกาะถังน้ำแข็งไว้ จนถึงช่วงเช้าของวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และยังสูญหายไปอีก ๓ คน เป็นไต๋เรือและลูกเรือชาวกัมพูชา ๒ คน ก่อนที่กลุ่มลูกเรือจะประสานขอความช่วยเหลือมายังทัพเรือภาคที่ ๑
หลังรับแจ้งได้สั่งการไปยัง นาวาเอก สมาน ขันธพงษ์ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ ๑ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ ๑ เรียกส่วนที่เกี่ยวข้องประชุมพร้อมสั่งการออกค้นหาโดยด่วน ก่อนทำการประชุมหาที่บริเวณจุดที่เรือประมงถูกเรือน้ำมันชนจมลง พร้อมสั่งการไปยัง เรือเอก ภูมิ ภูมมะภูติ ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ๒๒๖ ออกทำการค้นหาพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษมนุษย์กบ จำนวน ๕ นาย พร้อมชุดประดาน้ำและเรือยางออกค้นหาโดนรอบ จนพบจุดเรือจมจึงได้สั่งดำน้ำค้นหาจนพบร่าง นาย เฮือง เชือน ลูกเรือสัญชาติกัมพูชา เสียชีวิตอยู่ภายในเก๋งเรือประมงที่จมอยู่ก้นทะเล จึงได้ทำกู้ร่างขึ้นมาจากนั้นส่งมอบศพให้หน่วยกู้ภัยทางน้ำมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานนำเข้าฝั่งและส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสัตหีบเพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป ส่วน นายอัครพงษ์ วิกล ไต๋เรือและลูกเรือกัมพูชาอีก ๑ คน ที่ยังหายสูญหาย จากการลาดตระเวนตามเกาะแก่งและทะเลโดยรอบยังไม่พบแต่อย่างใด
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้