ผู้บัญชาการทหารเรือตรวจเยี่ยมการปฎิบัติการค้นหาและตรวจวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยและมอบหมายให้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการแถลงผลการปฏิบัติก่อนปิดภารกิจ

พลเรือเอก อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเดินทางไปตรวจเยี่ยมการค้นหาและตรวจวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยบนเรือ Ocean Valor โดยมี พลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗

โดยการปฏิบัติการในวันนี้เป็นวันที่ ๑๙ ภายหลังการตรวจเยี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย เป็นผู้แถลงข่าวปิดการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย บนเรือหลวงอ่างทอง โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พลเรือตรี วิชชุ บำรุง ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ในฐานะผู้บังคับหมวดเรือปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย, เรือเอก Will Rittenhouse ผู้บัญชาการภารกิจ (Mission Commander) ของชุดประดาน้ำผสมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา, เรือตรี ธงบุญ เพ็งแก้ว นักประดาน้ำกองทัพเรือ และทำหน้าที่นายทหารติดต่อในชุดประดาน้ำผสมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

สำหรับภารกิจค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพเรือและกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา โดยกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก ได้ส่งกำลังประกอบด้วย เรือกู้ซ่อมชื่อ Ocean Valor และทีมนักประดาน้ำของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา มาร่วมปฏิบัติการภายในกรอบการฝึกร่วมผสมทางทหารคอบร้าโกลด์ ๒๐๒๔ ระหว่างวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๖๗ รวมเวลาปฏิบัติการจำนวน ๑๙ วัน โดยมีภารกิจที่ปฏิบัติจำนวน ๔ ภารกิจ คือ

๑. การค้นหาผู้สูญหาย จำนวน ๕ คน ที่อาจติดอยู่ภายในเรือ
๒. การตรวจสอบวัตถุพยานที่ตัวเรือเพื่อประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการอับปางของเรือหลวงสุโขทัย
๓. การปลดวัตถุอันตรายและการทำให้ยุทโธปกรณ์สำคัญของสหรัฐอเมริกาหมดขีดความสามารถ (Demilitarization)
๔. การนำสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจชองเรือสุโขทัยขึ้นมาทำอนุสรณ์สถาน

โดยเรือหลวงสุโขทัยจมอยู่ที่ความลึก ๕๐ เมตร ในทางทิศตะวันออกของท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง ๒๒ ไมล์ทะเล หรือ ๓๙.๖ กิโลเมตร ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันหรือสารเคมีต่างๆ

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้จัดตั้งกองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย ที่อาคารสำนักงานท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังประกอบด้วย เรือของกองทัพเรือ จำนวน ๗ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๒ เครื่อง เรือกู้ซ่อม Ocean Valor ของสหรัฐอเมริกา ชุดประดาน้ำจำนวน ๒ ชุด ได้แก่ ชุดประดาน้ำผสมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยนักดำฝ่ายละ ๗ นาย รวม ๑๔ นาย ใช้เรือ Ocean Valor เป็นฐานปฏิบัติการ โดยใช้อุปกรณ์การดำระบบ Surface Supply Air Equipment หรืออุปกรณ์ส่งอากาศจากผิวน้ำให้นักดำที่สวมหัวครอบดำน้ำ และชุดประดาน้ำ กองทัพเรือ จำนวน ๔๐ นาย ใช้เรือหลวงมันในเป็นฐานปฏิบัติการ โดยใช้อุปกรณ์ดำน้ำแบบ SCUBA

สรุปผลการปฏิบัติในการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย สามารถบรรลุภารกิจและวัตถุประสงค์  ได้แก่ การค้นหาผู้สูญหาย การตรวจสอบวัตถุพยาน การปลดวัตถุอันตราย และการนำวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจของ เรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมา โดยการปฏิบัติการจำนวน ๑๙ วัน ชุดปฏิบัติการผสมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และชุดปฏิบัติการดำน้ำของกองทัพเรือ มีการปฏิบัติการดำน้ำ รวม ๘๒ เที่ยว เป็นเวลารวม ๖๗ ชั่วโมง ๕๓ นาที เก็บวัตถุพยานจำนวน ๕๘ รายการ นักดำน้ำทั้งหมดมีความปลอดภัย ถือเป็นความสำเร็จในการปฏิบัติงานร่วมกันของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา โดยสถานะของเรือหลวงสุโขทัยในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่ไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ ไม่มีวัตถุและสิ่งที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไม่มีวัตถุอันตรายต่อคนและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมทั้งไม่มีขีดความสามารถทางทหารที่จะสามารถนำไปใช้ได้อีก

หลังจากปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเสร็จสิ้นในวันนี้ สิ่งที่กองทัพเรือจะดำเนินการต่อไปคือ การรวบรวมยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ และสิ่งของของเรือหลวงสุโขทัยที่เก็บกู้ได้ นำส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบต่อไป โดยเรือ Ocean Valor ของสหรัฐอเมริกา จะเดินทางไปส่งสิ่งของของเรือหลวงสุโขทัย ที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ ในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗

ในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี เรือหลวงสุโขทัยอับปาง จะสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง จากข้อมูลและพยานวัตถุที่สำรวจตรวจสอบและเก็บกู้ได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ และกองทัพเรือจะจัดให้มีการแถลงข่าวในโอกาสต่อไป

นอกจากนั้นกองทัพเรือจะดำเนินการจัดสร้างอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัย โดยใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนของเรือที่ถอดถอนและนำขึ้นมาได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงเรือหลวงสุโขทัย รวมทั้งความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหาย