ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย ณ บริเวณแบริ่ง ๐๖๓ ระยะ ๘๑ ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลาซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ ได้สั่งการให้เรือหลวงท้ายเหมือง และ เรือ ต.๑๑๔ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๗๓๐ เรือหลวงท้ายเหมือง และเรือ ต.๑๑๔ ได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน ๒ ลำ กำลังลักลอบทำการประมงโดยการคราดปลิงทะเล ดังนี้
ลำที่ ๑ บริเวณแบริ่ง ๐๖๓ ระยะ ๘๑ ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม จำนวน ๕ คน
ลำที่ ๒ บริเวณแบริ่ง ๐๗๔ ระยะ ๘๒ ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม จำนวน ๔ คน
จากการตรวจสอบภายหลังหยุดเรือพบว่าเรือออกมาจากเมืองกาเมา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕โดยทำการประมงมาแล้ว ๔ วัน จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมด มาทำการสอบสวนที่ ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ ๓ ข้อหา ดังนี้
๑. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา ๑๐)
๒. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. ๒๕๕๘)
๓. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก. ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.๒๔๘๒)
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๒ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๙ รวมเรือ จำนวน ๑๒ ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน ๕๖ คน
ทัพเรือภาคที่ ๒ ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมงในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ ๒ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๑๑๓,๒๗๕ ตารางกิโลเมตร ทัพเรือภาคที่ ๒ จะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทยคงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้