ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี มูลค่าความเสียหายมากกว่า ๖๐๐ ล้านบาท

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี มูลค่าความเสียหายมากกว่า ๖๐๐ ล้านบาท

เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๓ สนธิกำลังกับ ทัพเรือภาคที่ ๓ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดกระบี่ สรรพสามิตภาค ๙ สรรพสามิตพื้นที่กระบี่ ด่านศุลกากรกันตัง สถานีตำรวจน้ำตรัง ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจค้นจับกุมเรือบรรทุกบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษีในพื้นที่จังหวัดตรังคิดคำนวณเป็นเงินค่าปรับจำนวนกว่า ๖๐๐ ล้านบาท
 
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ กรมสอบสวนคดีพิเศษโดย พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายพิเชฎฐ์ ทองศรีนุ่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ ๓ โดย พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๓ พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พลเรือตรี สุรัฎช์ ศิริวรรณนาวี รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๓ พลเรือตรี สุชาติ เปรมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักฝ่ายอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๓ ได้มอบหมายให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ นาวาเอกพิเชษฐ์ เข็มทอง หน.ศคท.จว.กระบี่ นาวาโท คมสัน จ้อยลี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าปฏิบัติการข่าว ทัพเรือภาคที่ ๓ และเจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ ๓ ลงพื้นที่ทำการสืบสวน กรณีกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดกฎหมายบริเวณชายแดนและชายฝั่งทะเล ตามเลขสืบสวนที่ ๑๑๘/๒๕๖๔ โดยประสานด้านการข่าวในการสืบสวนกับสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กระบี่

 

 

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้าบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี ทำการขนส่งบุหรี่ยี่ห้อ JOHN BLACK จำนวน ๑,๙๐๐ ลัง ซึ่งมีต้นทางมาจากต่างประเทศ โดยสำแดงว่าเป็นการส่งออกไปยังประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่สาม โดยแจ้งขออนุญาตส่งออก ณ ท่าเรือ K.T.C. ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยเรือสินค้าชื่อ เดโช คาร์โก้ ๘๙ เมื่อเรือออกจากท่าเรือและผ่านปากร่องน้ำกระบี่แล้วมุ่งหน้าไปทางเกาะลันตา และแล่นเข้าไปจอดยังบริเวณเกาะแหวน ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ในเวลาประมาณ ๒๒.๓๐ น. ได้มีเรือสปีดโบ๊ท จำนวน ๒ ลำ มารับบุหรี่ตามที่แจ้งไว้ นั้น มีเรือสปีดโบ๊ทอีก ๒ ลำ และเรือหางยาว ทำหน้าที่คอยเฝ้าและขับแล่นตรวจการณ์การลำเลียงบุหรี่กลับขึ้นฝั่งจังหวัดตรัง ซึ่งหน่วยงานร่วมบูรณาการได้สืบสวนสะกดรอยติดตามเรือเดโช คาร์โก้ ๘๙ ที่ได้แล่นกลับเข้าฝั่งไทยผ่านปากร่องน้ำกันตัง ช่วงอำเภอกันตังและอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

 

 

ต่อมา เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น. หน่วยงานร่วมบูรณาการได้ประสานกับตำรวจน้ำจังหวัดตรัง ใช้เรือ ตรน.๗๔ เข้าร่วมติดตามเรือเป้าหมายบริเวณคลองปะเหลียน - คลองเกาะเคี่ยม ในขณะเดียวกัน ประสานให้เรือ ต.๑๑๑ สังกัดหมวดเรือเฉพาะกิจ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๓ จอดเรือเฝ้าตรวจด้วยเรดาร์บริเวณปากแม่น้ำกันตัง จนสามารถตรวจค้นและจับกุมเรือดังกล่าวได้ บริเวณตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยขบวนการบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษีตามใบอนุญาตส่งออกและใบกำกับการขนย้ายสินค้าดังกล่าว เป็นเครือข่ายที่ลักลอบกระทำความผิดมาเป็นเวลานาน ซึ่งเจ้าพนักงานสรรพสามิตคิดคำนวณเป็นมูลค่าภาษีที่รัฐต้องสูญเสียรายได้เป็นเงิน ๓๔,๓๐๘,๓๐๐ บาท และคำนวณเป็นเงินค่าปรับเป็นเงิน ๖๘๖,๑๖๖,๐๐๐ บาท  กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ.(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.๒๕๔๗ ตามบัญชีท้าย ข้อ ๑๑ และข้อ ๑๒ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนจะได้ร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อบูรณาการร่วมกัน ในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และเตรียมเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อมีคำสั่งให้ทำการสอบสวนกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษต่อไป

 

ในห้วงที่ผ่านมา ทัพเรือภาคที่ ๓ มีการดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด แต่กระบวนการกระทำความผิดนี้มีความซับซ้อนมาก ทำให้ยังไม่สามารถจับกุมได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาประสานการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายรายสำคัญได้ในครั้งนี้ และเนื่องจากคดีนี้ ทำให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าที่สูงมาก ต้องมีการขยายผลเพื่อเอาผิดกับเครือข่ายนี้ต่อไป
 
ในส่วนของพเรือภาคที่ ๓ และ ศรชล.ภาค 3 จะประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การขยายผลสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม และจะปฏิบัติการในทะเลอย่างเข้มแข็งต่อไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพเรือ เพื่อให้เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้