กองทัพเรือ

วันนี้ (๒๓ เมษายน ๒๕๖๔) นาวาโทหญิง มธุศร เลิศพานิช รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ออกหนังสือด่วน เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๔ เชิญสื่อมวลชนร่วมทำข่าว กรณีเข้าจับกุมนายทหารยศเรือตรีหลังแฝงตัวเข้าไปแอบถ่ายภาพนักกีฬา ในการแข่งขันยิมนาสติกลีลา ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๓ โดยรองโฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า "กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเร่งดำเนินการตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการกองทัพเรือจริง คือ เรือตรี อชิตะ เทพเสนา นายทหารพระธรรมนูญ สังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้แฝงตัวเข้าไปถ่ายภาพนักกีฬา ขณะที่มีการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลา ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ โดยสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศ ไทยได้มีหนังสือมาถึงกองทัพเรือให้พิจารณาสอบสวนและลงทัณฑ์ทางวินัย ซึ่งโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สรุปได้ว่าเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. เรือตรี อชิตะฯ เข้าชมและถ่ายบันทึกภาพนักกีฬาเด็กและเยาวชนหญิง ในการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลาระหว่างโรงเรียนส่วนกลาง ประจำปี ๒๕๖๓ ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ในขณะที่ถูกรุมล้อมและยึดกล้องถ่ายรูปไปเพื่อตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องโดยผู้เกี่ยวข้องในการจัดการแข่งขันกีฬายิมนาส ติกลีลา ทั้งนี้ เรือตรี อชิตะฯ ถูกนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เพื่อดำเนินคดี

คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พิจารณาการกระทำของ เรือตรี อชิตะฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ทำไปโดยขาดจิตสำนึกหรือวุฒิภาวะที่บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวจะพึงประพฤติปฏิบัติ จึงถือได้ว่า เรือตรี อชิตะฯ ปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ.๒๕๕๑ อันเป็นความผิดในทางวินัยฐานประพฤติตนไม่สมควร จึงให้ลงทัณฑ์และงดบำเหน็จครึ่งปีแรกของปี ๒๕๖๔ ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จประจำปีของข้าราชการทหาร พ.ศ.๒๕๔๔

รองโฆษกกองทัพเรือย้ำว่า "กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันให้ความเป็นธรรมตามกระบวนการทางกฏหมายและไม่ปกป้องผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ พร้อมทั้งจะกำชับกำลังพลในทุกระดับเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก"