พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย ๒๘ กันยายน ประจำปี ๒๕๖๔ ในส่วนของกองทัพเรือ ณ บริเวณเสาธงหน้าอาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔
เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งครบรอบ ๑๐๔ ปี สำนักนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมประดับธงชาติไทยตามอาคารสถานที่ราชการ สถานศึกษา และอาคารบ้านเรือน พร้อมจัดกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย บริเวณหน้าเสาธงของหน่วยงาน เพื่อความภาคภูมิใจในเอกราชและการเสียสละของบรรพบุรุษไทย ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ๑๙ ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ตามหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ หน่วยเฉพาะกิจกองทัพเรือได้ร่วมจัดกิจกรรมในเวลา ๐๘.๐๐ น. โดยพร้อมเพียงกัน และในส่วนของกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ได้จัดให้มีกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย ณ บริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์ นับได้ว่าเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ จากจดหมายเหตุบันทึกของเรือรบฝรั่งเศส ระบุว่าธงประจำชาติสยามถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาครั้งแรก เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ปี ๒๒๒๓ ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
“ธงชาติไทย” นับเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของชาติ เป็นสิ่งเตือนใจให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงการเสียสละของบรรพบุรุษเพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดิน และรวมดวงใจของคนทั้งชาติให้เป็นหนึ่ง หล่อหลอมความรัก ความสามัคคี สร้างเสริมความภูมิใจในความเป็นชาติ ทั้งนี้ ธงชาติของแผ่นดินไทย ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ได้เริ่มขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงกำหนดให้ใช้จักร อันเป็นเครื่องหมายแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ลงไว้กลางธงผ้าผืนแดง สำหรับ ในเรือกำปั่นหลวง เพื่อแสดงความแตกต่างจากเรือราษฎรชาวสยามทั่วไป ที่ยังคงใช้ธงแดงเกลี้ยง มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดให้ทำ รูปช้างสีขาวไว้กลางวงจักร เพื่อชักในเรือหลวง ส่วนเรือราษฎรยังคงใช้ธงแดงเช่นเดิม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการให้เรือของราษฎรใช้ธงเหมือนอย่างเรือหลวง แต่ให้นำรูปจักรออก เพราะเป็นของสูง คงไว้แต่ช้างเผือกบนพื้นแดง ต่างกันแค่เพียงสีพื้น โดยธงเรือราษฎรมีพื้นสีแดง ส่วนเรือหลวงมีพื้นสีขาบ จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยามรัตนโกสินทร์ศก ๑๑๐ ขึ้น เป็นพระราชบัญญัติธง ฉบับแรกของประเทศไทย โดยธงเรือรบหลวงมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องบนพื้นแดง มีจักรอยู่บนมุมซ้าย ส่วนธงเรือราษฎร เป็นรูปช้างเผือกเปล่าบนพื้นแดง และต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระราชบัญญัติธง รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๙ ขึ้นใหม่ โดยแยกเป็น ธงราชการ ธงทหารเรือ และ ธงชาติ โดยแรกเริ่มนั้น ธงชาตินั้นยังมีรูปแบบเหมือนธงเรือราษฎร เรือเป็นรูปช้างเผือกบนพื้นแดง จนกระทั่งในปี ๒๔๕๙ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ออกประกาศเพิ่มเติมแก้ไขพระราชบัญญัติเพิ่มเติม และนำมาสู่การพระราชทาน ธงไตรรงค์เป็นธงประจำชาติ ในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ โดยทรงอธิบายถึงความหมายไว้ในพระราชนิพนธ์ “เครื่องหมายแห่งไตรรงค์” ว่า สีแดง หมายถึง เลือดอันยอมพลีเพื่อธำรงรักษาชาติและศาสนา สีน้ำเงินหมายถึง สีส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ และสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งพระศาสนา อันแสดงให้เห็นถึงการเป็นนักออกแบบชั้นยอด ที่สามารถออกแบบธง ให้มีความหมายรวมถึงสถาบันหลักของแผ่นดิน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสัญลักษณ์บนผืนธงชาติได้อย่างงดงาม ขณะเดียวกันก็ไม่ทรงทิ้งรูปแบบธงเดิมที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของธง ทรงรักษาและให้ปรากฏอยู่บนธงราชนาวี อันเป็นธงชาติอีกแบบหนึ่ง ซึ่งแสดงถึงความเป็นชาติไทยที่ชักในเรือหลวง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดธงราชนาวีอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับธงไตรรงค์
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๙ เห็นชอบให้วันที่ ๒๘ กันยายน ของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) และเริ่มในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นครั้งแรก โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ รวมทั้งกำหนดให้มีการชักและประดับธงชาติในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้