พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยมีกำลังพลในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และฝีพายเรือพระราชพิธี จำนวน ๒,๒๐๐ นายร่วมในพิธี ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เชิงสะพานพระราม ๘ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๗
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบโอวาทแก่กำลังพล โดยขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งนี้ และจงทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ เพื่อให้การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ
" นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖ และดําเนินการเตรียมการมาตามลําดับตั้งแต่การซ้อมที่อู่แห้ง ซ่อมเรือ จนกระทั่งวันนี้ เรือทุกลํามีความพร้อม กําลังพลทุกนายได้ผ่านการฝึกจนมีความพร้อม และนับจากนี้ เราจะเริ่มซ้อมเป็นขบวนเรือครั้งแรก และจะซ้อมอีก ๑๐ ครั้ง จนถึงวันซ้อมใหญ่ คือ ๑๕ และ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๗ และวันเสด็จพระราชดําเนินจริงคือวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๗
ทุกคนคือความภูมิใจของกองทัพเรือ ทุกคนคือความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่จะได้ร่วมกันถวายงานนี้ ให้สมพระเกียรติ สิ่งที่อยากจะขอให้ทุกคนระลึกไว้เสมอคือ ความปลอดภัยในขบวนเรือ ขออย่าให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ รวมทั้งขอให้กําลังพลทุกนายรักษาสุขภาพอนามัย
ขอขอบคุณในความเหน็ดเหนื่อยของทุกคน และขอให้ทุกคนมีกําลังกายกําลังใจที่จะทําหน้าที่นี้ให้เต็มที่ "
สำหรับรูปแบบการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น ๕๒ ลำ ความยาว ๑,๒๐๐ เมตร กว้าง ๙๐ เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น ๒,๒๐๐ นาย ซึ่งการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ รูปขบวนเรือ แบ่งออกเป็น ๕ ริ้ว ๓ สาย คือ
- ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง ๔ ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน
- ริ้วสายใน ขนาบข้าง ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของริ้วสายกลาง ได้แก่ เรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า ส่วน เรือเสือทยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ ๘ ลำ และปิดท้ายสายในด้วย เรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก
- ริ้วสายนอก อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของริ้วสายใน ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ ๑๔ ลำ รวม ๕๒ ลำ
โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน ๑๐ ครั้ง ดังนี้ วันที่ ๑ ,๘ ,๑๕ ,๒๒ สิงหาคม วันที่ ๓ ,๑๒ ,๑๙ ,๒๖ กันยายน วันที่ ๑ และ ๑๐ ตุลาคม
การซ้อมใหญ่ จำนวน ๒ ครั้ง ในวันที่ ๑๕ และ ๒๒ ตุลาคม และซ้อมเก็บความเรียบร้อยในวันที่ ๒๔ ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๗
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชมการฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่าน โดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้
- ฝั่งธน บริเวณใต้สะพานพระราม ๘ ด้านพระบรมราชเสาวรีย์รัชกาลที่ ๘ สวนเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม
- ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่มเคลื่อนขบวนบริเวณสะพานพระราม ๘ จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม