ผู้บัญชาการทหารเรือเข้ารับรางวัลเกียรติยศเชิดชูเกียรติ ศิษย์เก่าดีเด่น "รางวัล Martin De Tours Award" จากสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล ในโอกาสฉลองครบรอบ ๗๒ ปี สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เข้ารับรางวัลเกียรติยศเชิดชูเกียรติศิษย์เก่าดีเด่น ประเภทการบริหารในภาคราชการหรือหน่วยงานของรัฐบาล "รางวัล Martin De Tours Award" จากสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล ในโอกาสครบรอบ ๗๒ ปี สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล โดยมีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ร่วมงาน ณ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ 

สำหรับรางวัลเชิดชูเกียรติ ศิษย์เก่าดีเด่น "รางวัล Martin De Tours Award" จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติให้กับศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่สร้างคุณูปการให้แก่ประเทศชาติ ในการบริหารภาคราชการหรือหน่วยงานของรัฐบาล

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่นที่ ๕๐ เลขประจำตัว ซ.ค.๑๑๗๒๓ ภายหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้เข้า ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร โดยเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๒๒ จากนั้น เข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรือ เป็นนักเรียนนายเรือ รุ่นที่ ๗๙ เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญคือ ผู้บังคับการเรือหลวงคำรณสินธุ ผู้บังคับการเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทยประจำสำนักเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๓ (ผอ.ศรชล.ภาค๓) รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และ ผู้บัญชาการทหารเรือ

พลเรือเอก เชิงชาย ฯ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การมีส่วนร่วมสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing จนสหภาพยุโรป ประกาศปลดสถานะใบเหลือง เพื่อแสดงการยอมรับต่อความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหา นอกจากนั้นยังได้ร่วมเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมในการพิจารณาและผลักดันพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เป็นผลให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เพื่อบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ (ผอ.ศรชล.ภาค ๓) ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจสกัดกั้นผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ศรชล.ภาค ๓ จังหวัดระนอง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบทางทะเล ซึ่งสามารถป้องกันและจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศ และร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อำนวยความสะดวกและเป็นสักขีพยานในการผลักดันบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาที่สิ้นสุดคดีออกนอกราชอาณาจักรตามความสมัครใจ รวมถึงได้จับกุมผู้กระทำความผิดจากการลักลอบขนแผ่นยางพารา จากประเทศเมียนมาเข้ามายังประเทศไทยได้หลายครั้ง จนสามารถขยายผลไปยังนายทุนและผู้มีอิทธิพลได้ นอกจากนั้น ยังได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ในพื้นที่ภาคใต้ ศรชล.ภาค ๓ จังหวัดสตูล เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเลทุกรูปแบบ ตรวจสอบการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองทางทะเลโดยผิดกฎหมาย การอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย โดยได้อำนวยการและสั่งการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย การลักลอบขนสินค้าและยาเสพติดเข้าประเทศทางทะเลได้เป็นจำนวนมาก ผลงานสำคัญด้านการต่างประเทศ พลเรือเอก เชิงชาย ได้มอบนโยบายการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมุ่งเน้นความมีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีระหว่างประเทศ และการประสานประโยชน์ร่วมกันเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางทะเลทุกรูปแบบ ด้วยการแลกเปลี่ยนการเยือนทั้งในระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงหรือในระดับนโยบาย และในระดับผู้บังคับหน่วยกำลังที่มีลักษณะเป็นกำลังเผชิญหน้าเพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และการป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากความเข้าใจผิด นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมบทบาทนำของกองทัพเรือในเวทีการประชุมระหว่างประเทศ โดยเข้าร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารเรือภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ณ ประเทศญี่ปุ่น การเป็นประธานร่วมคณะทำงานว่าด้วยความมั่นคงทางทะเล ซึ่งเป็นคณะทำงานตามกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศคู่เจรจา และได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมการเป็นประธานในกรอบการประชุมผู้บัญชาการทหารเรือภาคพื้นมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งกองทัพเรือได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ระหว่างปี ๒๕๖๖ - ๒๕๖๘