กองทัพเรือ

พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา เรือเกาะเจริญ ๒ ซึ่งเป็นเรือนอนและบรรทุกสินค้าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากฝั่งเกาะเต่า ประมาณ ๓ ไมล์ทะเล ณ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗

โดยในขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติของกองทัพเรือ (HADR) บริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี กองทัพเรือ จึงได้จัดกำลังให้ความช่วยเหลือ โดยสั่งการให้จัดอากาศยานจากเรือบรรเทาสาธารณภัยบนเรือหลวงอ่างทอง ขึ้นบินสำรวจ รวมถึงจัดเรือปฏิบัติการความเร็วสูง ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ร่วมกับหน่วยกู้ภัยของอำเภอเกาะพะงัน เทศบาลตำบลเกาะเต่า สถานีตำรวจภูธรเกาะเต่า โรงพยาบาลเกาะเต่า มูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า กำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงผู้ประกอบการเรือเอกชน โดยสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารจากเรือเข้าฝั่งได้ทั้งหมด

สำหรับกำลังของกองทัพเรือที่เข้าให้ความช่วยเหลือเรือที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เป็นกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่เข้ารับการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพเรือ ซึ่งได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือ ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือการซักซ้อมและเตรียมการรับมือในช่วงสภาวะปกติ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล ให้มีความพร้อมในการดำรงภารกิจป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงทางทะเล เพื่อให้เกิดความชำนาญและความพร้อมในการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย ดังนั้น กองทัพเรือจึงได้จัดการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๗ ในเรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่เกาะพะงันในห้วง วันที่ ๒ - ๕ เมษายน ๒๕๖๗ เพื่อกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จะได้ทดสอบและซักซ้อมความเข้าใจในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกาะพะงัน สำหรับหัวข้อการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ ประกอบด้วย
๑. การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
๒. การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางบก
๓. การส่งกลับผู้ป่วยด้วยอากาศยานและส่งกลับสายแพทย์
๔. การปฏิบัติการทางการแพทย์สนับสนุนการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพเรือ
๕. การปฏิบัติควบคุมพื้นที่ติดเชื้อภายใต้สถานการณ์แทรกซ้อนจากโรคระบาด
๖. การชำระล้างในสภาวะแทรกซ้อนจากโรคระบาด

สอดคล้องกับนโยบายที่ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำให้หน่วยต่าง ๆ ดำรงการฝึก ตามวลีที่ว่า “ฝึกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤติ”