กองทัพเรือ

พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ สั่งการจับกุมเรือประมงต่างชาติที่รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย ณ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๖

โดยเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ ทัพเรือภาคที่ ๑ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ ได้รับแจ้งจากกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ ๑ และแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ ๑ / ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ บริเวณแบริ่ง ๒๐๖ องศา ระยะ ๕๓ ไมล์ จากเกาะกูดนั้น ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ ประสานการปฏิบัติกับ ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ ๑ สั่งการให้อากาศยานจากหมวดบินเฉพาะกิจทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ ๑ และเรือจากหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ ๑ ขึ้นทางยุทธการกับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (เรือ ต.๘๓ และ เรือ ต.๒๓๒ ) ซึ่งเป็นเรือในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ ๑ ออกทำการลาดตระเวนตรวจสอบ เมื่อเข้าถึงพื้นที่ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ จึงทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบเรือประมงไร้สัญชาติ จำนวน ๑ ลำ ชนิดเรือไดหมึก ลักษณะตัวเรือสีเขียว มีผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือจำนวน ๒ คน ในการนี้ ได้ตรวจพบเรือประมงดัดแปลง เพื่อบรรทุกน้ำมัน จำนวน ๑ ลำ ลูกเรือ ๕ คน จึงเข้าทำการควบคุมเรือพร้อมลูกเรือ ทั้ง ๒ ลำ เดินทางกลับมายังท่าเรืออเนกประสงค์ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปี ๒๕๖๗ โดยร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ ในการประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าวและการจัดกำลังทางเรือ จนประสบผลสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้

ทัพเรือภาคที่ ๑ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป