ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

กองทัพเรือจัดกำลังช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังเหตุอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที

พลเรือตรี วีรุดม  ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศว่า จากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจาก พายุดีเปรสชัน "ซูลิก" เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน โดยแจ้งเตือนให้ ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๗

ในการนี้ กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก อะดุง  พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จึงได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือในทุกพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงทำการสำรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงที

สำหรับการดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น มีผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันนี้ ดังนี้

พื้นที่จังหวัดเชียงราย หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ได้ดำเนินการแจกจ่ายยารักษาโรคและถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนั้นสำหรับในส่วนของการฟื้นฟู ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ยังคงร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดำเนินการนำเครื่องจักรขุดโคลน ขยะ และพัฒนาเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านพักอาศัยให้กับประชาชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในส่วนของจังหวัดนครพนม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือ รักษาความสงบเรียบร้อยตามแม่น้ำโขงเขตนครพนม ได้จัดชุดเฝ้าระวังและสำรวจพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงจัดชุดเฝ้าระวัง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ รวมถึงจัดถุงยังชีพ กระสอบทราย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ

ขณะที่ทางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี โดยชุดบรรเทาสาธารณภัยสถานีเรือเขมราฐ จัดกำลังพล เข้าช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จำนวน ๒ หลังคาเรือน

ด้านจังหวัดหนองคาย ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอันเนื่องมาจากน้ำในแม่น้ำโขงไหลล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ชุดบรรเทาสาธารณภัยสถานีเรือ บึงกาฬ และชุดบรรเทาสาธารณภัยสถานีเรือสังคม ได้จัดยานพาหนะรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน ๒ คัน และเรือเร็วจู่โจมลำน้ำ (จลต.) จำนวน ๑ ลำ สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน ๔๙ ครัวเรือน

ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือภาค ๑ - ๓ รวมถึงหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือในพื้นที่รับผิดชอบได้จัดกำลังพลพร้อม ยุทโธปกรณ์ เตรียมความพร้อม รวมทั้งติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังเหตุอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการเตรียมความพร้อมให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ยังคงให้หน่วยงานของ กองทัพเรือ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ดำรงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กองทัพเรือ ดังหมายเลขต่อไปนี้

พื้นที่จังหวัดเชียงราย โทร. ๐๙ ๓๑๗๖ ๓๗๗๔
พื้นที่หนองคาย โทร. ๐ ๔๒๔๕ ๑๐๗๕
พื้นที่นครพนม โทร. ๐ ๔๒๕๔ ๑๒๐๕
พื้นที่อุบลราชธานี โทร. ๐ ๔๕๒๕ ๑๕๗๘
สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

รูปภาพเพิ่มเติม

Related Articles

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้