พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติภารกิจของหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ ณ บริเวณสะพานโยทะกา อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๖
ตามที่กองทัพเรือ ได้รับหนังสือขอรับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำบางปะกง ณ พื้นที่อำเภอองครักษ์นั้น ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้สั่งการให้กรมอู่ทหารเรือจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำพื้นที่จังหวัดนครนายก โดยจัดเรือผลักดันน้ำ จำนวน ๔๐ ลำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ จากอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ซึ่งได้สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตามที่จังหวัดนครนายกร้องขอ และจะทำการติดตั้งเรือผลักดันน้ำทั้ง ๒ จุด จำนวนจุดละ ๒๐ ลำ
โดยในเวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำได้ติดตั้งและเดินเครื่องระบบเรือผลักดันน้ำชุดแรก จำนวน ๑๐ ลำ บริเวณสะพานโยทะกา ซึ่งบริเวณนี้จะมีการติดตั้งเรือผลักดันน้ำอีก ๑๐ ลำ ในวันจันทร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๖
ต่อมา เรือผลักดันน้ำชุดที่สอง ได้ถูกติดตั้ง ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำนครนายก ตำบลทรายมูล จำนวน ๕ ลำ และจะดำเนินการติดตั้งอีก ๑๕ ลำ ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ตลอดจนเดินเครื่องผลักดันน้ำพร้อมกันทันทีทั้ง ๒ จุด เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างด่วนที่สุด โดยการปฏิบัติชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ จะเดินเครื่องวันละ ๑๒ ชั่วโมง เวลา ๐๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ นาฬิกา
สำหรับเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ ๙) ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริสำหรับแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ โดยแนวความคิดนี้ กรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศจวบจนปัจจุบัน และจากองค์ความรู้ในการสร้างเรือผลักดันน้ำที่ไม่เคยหยุดพัฒนา ทำให้กองทัพเรือสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปี ๒๕๕๔ ได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังเป็นการสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่เป็น ๓ ขนาด คือขนาด ๓๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๑๕๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน ขนาด ๒๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน และขนาด ๑๒๐ แรงม้า ผลักดันน้ำได้ ๓๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน
โดยเรือผลักดันน้ำของหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ มีขนาดเรือ กว้าง ๑.๘ เมตร ยาว ๕.๕ เมตร สูง ๑.๒๕ เมตร กินน้ำลึก ๐.๗๕ เมตร เครื่องยนต์ ตราอักษร Volvo รุ่น Penta TAD 720VE กำลัง ๒๓๗ แรงม้า อัตราความสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล ๑๖ - ๒๐ ลิตร/ชั่วโมง (ตามความเร็วรอบเครื่อง) มีขีดความสามารถเร่งความเร็วน้ำ ๑๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน/ลำ มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๐ ลำ ซึ่งมีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจผลักดันน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยขณะนี้ได้เตรียมการสนับสนุนจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อผลักดันน้ำบริเวณพื้นที่อำเภอบางบ่ออีกด้วย
ทั้งนี้ เรือผลักดันน้ำ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึง และเป็นคอขวด ซึ่งเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลออกได้ช้า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้