ทัพเรือภาคที่ ๑ ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ (ศรชล.ภาค ๑) จากการติดตามและขยายผล ในการป้องกัน และปราบปรามเกี่ยวกับสถานการณ์การลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือประมงต่างชาติในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน ควบคู่ไปกับ การปฎิบัติการด้านการข่าวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับ เครือข่ายเรือประมงไทยในทะเล นำไปสู่การวางแผนจัดเรือลาดตระเวนตรวจสอบและดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบ
ในวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ หมวดเรือเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ ๑ได้ส่งเรือตรวจการณ์ ๒๗๑ ออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่เป้าหมายตามข้อมูลด้านการข่าว และการประสานงานของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ (ศรชล.ภาค ๑)
ต่อมา ในเวลา ๑๒.๐๕ น. เรือตรวจการณ์ ๒๗๑ ได้ตรวจพบเรือประมงเวียดนาม จำนวน ๒ ลำ พร้อมลูกเรือชาวเวียดนามจำนวน ๑๐ นาย โดย เรือตรวจการณ์ ๒๗๑ เข้าควบคุมสถาณการณ์ในเบื้องต้น ก่อนที่เรือตรวจการณ์ ๒๖๑ จะสนธิกำลัง สมทบเข้าควบคุมเรือประมงเวียดนาม จำนวน ๒ ลำ พร้อมลูกเรือชาวเวียดนาม ๑๐ นาย มายังท่าเทียบเรือ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ (กลางอ่าว) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อ ดำเนินการ สอบสวน ขยายผล และ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป โดยมี พลเรือตรี ชาติชาย ทองสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ อำนวยการการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
ในการนี้ พลเรือโท สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๑ ยังคงเน้นย้ำ ให้ดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือประมงต่างชาติในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน และให้มุ่งมั่นในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งภารกิจดังกล่าวนอกจากจะเป็นภารกิจหลักที่สำคัญของกองทัพเรือแล้ว ยังเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะพี่น้องเครือข่ายเรือประมงไทยในทะเล ในการช่วยกันเป็นหูเป็นตา ในกรณีที่พบเห็นการกระทำความผิดในทะเล สามารถเเจ้งข้อมูลข่าวสารให้ทหารเรือ (พี่ใหญ่) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ใกล้เคียงให้ทราบทางเครือข่าย “วิทยุสื่อสารมดดำ” อันเป็นช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้มีการตรวจสอบเเละดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดต่อไป ดังคำกล่าวที่ว่า “รักเหมือนพี่เหมือนน้องช่วยกันป้องปฐพี”
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ทัพเรือภาค ๑ ได้ดำเนินการจับกุมมาเรือประมงที่รุกล้ำน่านน้ำไทย เเละทำการประมงโดยผิดกฎหมายมาแล้วทั้งสิ้น ๕ ครั้ง ได้เรือของกลาง จำนวน ๑๑ ลำ