กองทัพเรือ

ทัพเรือภาคที่ ๒ จับกุมเรือประมงเวียดนามทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทย

ทัพเรือภาคที่ ๒ ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๒ ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณระยะ ๑๒๐ ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะพลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๒ ได้สั่งการให้เรือหลวงท้ายเหมืองออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เรือหลวงท้ายเหมืองได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติ เวียดนาม จำนวน ๒ ลำ กำลังลักลอบทำการประมงโดยการลากอวนคู่ บริเวณระยะ ๑๒๐ ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือทั้ง ๒ ลำ รวมจำนวน ๑๔ คน

จากการตรวจสอบภายหลังหยุดเรือ พบว่าเรือออกมาจากเมืองกาเมา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ โดยทำการประมงมาแล้ว ๔ วัน จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ พลเรือตรี พิจิต ศรีรุ่งเรือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ ในฐานะผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ ๒ พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางมาควบคุมดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID -19) ทำการตรวจด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ลูกเรือทั้งหมดรวมทั้งจัดอาหารและ น้ำดื่มให้ผู้ควบคุมและลูกเรือชาวเวียดนาม จำนวน ๑๔ คน

การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ จึงตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ ๓ ข้อหา ดังนี้

๑. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา ๑๐)

๒. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.๒๕๕๘ )

๓. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก. ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.๒๔๘๒ )

สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๒ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๐ รวมจำนวนเรือ ๑๔ ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือ จำนวน ๗๐ คน ทัพเรือภาคที่ ๒ และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๒ ขอขอบคุณชาวประมงในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ ๒ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๑๑๓,๒๗๕ ตารางกิโลเมตร นั้น เราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทยคงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป