ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ทัพเรือภาคที่ ๑ โดยหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ ๑ สั่งการให้เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง หมายเลข ๒๖๘ (เรือ ต.๒๖๘) ออกเรือลาดตระเวนแสดงกำลังในพื้นที่ ตามที่ได้รับการประสานด้านการข่าว จาก ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดตราด ว่ามีกลุ่มเรือประมงต่างชาติ รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในทะเลอาณาเขตของไทย ผลการปฏิบัติ ตรวจพบกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กของประเทศเพื่อนบ้าน ประมาณ ๒๐ - ๓๐ ลำ บริเวณทิศตะวันออกเกาะกูด ห่างจากเกาะกูดประมาณ ๘ ไมล์ ระหว่างบ้านคลองสน ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ กับเกาะกูด จึงได้ดำเนินการผลักดันกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ให้ออกจากอาณาเขตทางทะเลของไทย โดยไม่ใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งแจ้งเตือนไม่ให้เข้ามาลักลอบทำการประมงอีก ผลการปฏิบัติกลุ่มเรือประมงยินยอมถอยออกจากน่านน้ำไทยแต่โดยดี
ในการนี้ พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ ได้เน้นย้ำกับ นาวาเอก เกียรติกูล สุวรรณ ผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ทัพเรือภาคที่ ๑ ให้กำชับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ ๑ ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดนทางทะเล จังหวัดตราด ว่าจะต้องมีความพร้อม คอยตรวจตรา เฝ้าระวังการทำประมงรุกล้ำน่านน้ำ และประสานด้านการข่าวกับหน่วยในพื้นที่ ทั้ง ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดตราด และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี - ตราด ในการปฏิบัติหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมถึงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ให้สมกับคำที่ว่า "กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"