ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖

ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ และผู้บังคับบัญชาในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖ ให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

 

 

 

 

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทให้กับกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก และชมการการสาธิตการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งมีการประกอบกำลังจากหน่วยกำลังรบ และหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ ในกองทัพเรือมาเข้าร่วมการปฏิบัติการสาธิตฯ โดยเป็นการปฏิบัติการโจมตีจากทะเลต่อที่หมายบนฝั่ง ด้วยกำลังรบยกพลขึ้นบก กำลังปฏิบัติการพิเศษ และอาวุธจากเรือผิวน้ำและอากาศยาน นอกจากนั้น ยังมีการสาธิตการป้องกันพื้นที่สำคัญบนฝั่งด้วยกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งอีกด้วย

กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือประจำปีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงความพร้อมของหน่วยต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ แบ่งการฝึกเป็นวงรอบทุก ๒ ปี ตามสถานการณ์ที่ถูกกำหนดขึ้น โดยในปีแรกหรือ Light Year เป็นการฝึกในสถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระดับต่ำ ส่วนในปีที่ ๒ หรือ Heavy Year เป็นการฝึกในสถานการณ์วิกฤตจนถึงขั้นการป้องกันประเทศ

 

 

 

การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๖ นี้ จัดขึ้นระหว่าง ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ - ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ โดยมีกำลังทางเรือประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมการฝึก ได้แก่ เรือผิวน้ำ จำนวน ๒๐ ลำ เครื่องบิน จำนวน ๔ เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ จำนวน ๖ เครื่อง อากาศยานไร้คนขับ จำนวน ๒ ระบบ กำลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กำลังจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กำลังจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ตลอดจนหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ มีกำลังพลเข้าร่วมการฝึกรวมทั้งสิ้น ๔,๕๐๐ นาย มีพื้นที่การฝึกทั้งในทะเลและบนบกโดยแบ่งการฝึกเป็น ๒ ส่วน คือ

๑. การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise: CPX) มีระยะเวลาการฝึกรวม ๓ สัปดาห์ ระหว่าง ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ - ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖ เพื่อฝึกการควบคุมบังคับบัญชา และทดสอบแนวความคิดในการใช้กำลังและหลักนิยมต่าง ๆ ของหน่วยบังคับบัญชาในระดับต่าง ๆ

๒. การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล (Field Training Exercise: FTX) ระหว่างวันที่ ๒๐ มีนาคม - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นการฝึกปฏิบัติการจริงของหน่วยกำลังรบประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและประสบการณ์ให้กับกำลังพล รวมทั้งเป็นการทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการต่าง ๆ อาทิ การคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางทะเล การโจมตีกำลังทางเรือของฝ่ายตรงข้าม การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และการป้องกันฝั่ง

 

ซึ่งกำลังทางเรือต้องฝึกการปฏิบัติทางยุทธวิธีตามสาขาปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แก่ การปราบเรือดำน้ำ การต่อต้านเรือผิวน้ำ การป้องกันภัยทางอากาศ การปฏิบัติการพิเศษ การยกพลขึ้นบก รวมทั้งปฏิบัติการข่าวสารและสงครามไซเบอร์ ทั้งนี้ จะมีการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น - สู่ - พื้น แบบ Harpoon Block 1C ในทะเลอันดามัน โดย เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งที่จัดสร้างขึ้นในประเทศไทย การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือและอากาศยานอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การยิงอาวุธประจำหน่วย และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ของกำลังภาคพื้นดิน ทั้งกำลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมทั้งกองทัพบกและกองทัพอากาศที่ได้จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ด้วย ในขณะเดียวกัน ได้มีการฝึกด้านการส่งกำลังบำรุง (Logistics Exercise: LOGEX) เพื่อทดสอบขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงและการปฏิบัติของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ พร้อมกันไปด้วย และที่สำคัญ คือ การฝึกในครั้งนี้ ได้มีการเชิญศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กองทัพบก และกองทัพอากาศ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในหัวข้อการฝึกต่าง ๆ อีกด้วย เช่น กำลังของ ศรชล. ในการฝึกป้องกันพื้นที่สำคัญ กำลังของกองทัพอากาศ อาทิเครื่องบินขับไล่แบบ JAS-39 Gripen (บข.20) และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางภัยอากาศ SAAB 340 AEW (บ.ค.๑) ในการฝึกป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือและการโจมตีเรือในทะเล กำลังของกองทัพบก อาทิ รถถังแบบ T – 84 Oplot-M ในการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เป็นต้น

 

 

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๖ นั้น นอกจากกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกจะได้รับความรู้ ความชำนาญเพิ่มขึ้นจากการฝึกแล้ว ยังทำให้กองทัพเรือได้รับทราบถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของกำลังทางเรือที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกันกับ ศรชล. และ เหล่าทัพ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะในการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยขีดความสามารถของกำลังทางเรือที่เตรียมไว้สำหรับการทำสงคราม ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในยามปกติได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้