จากเหตุการณ์เรือคิงส์ครุยเซอร์ที่วิ่งระหว่างเกาะภูเก็ตและเกาะพีพี ได้ชนหินโสโครก ใกล้กับหินมุสัง และจมลงไปในที่สุด เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๐ โดยที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งซากเรือดังกล่าว ได้กลายเป็นจุดดำน้ำที่มีนักดำน้ำทั่วโลกได้ให้ความสนใจและเป็นหนึ่งในสุดยอดซากเรือจมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเรือใด้จมใต้ทะเลอันดามัน ที่ความลึกประมาณ ๓๐ ฟุต จนเวลาผ่านไป ๒๔ ปี ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ ของประชากรชาวทะเล มีฝูงปลาสิงโต ปลาสากและปลาอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาอาศัยอยู่บริเวณแห่งนี้ด้วยสีสันที่งดงามของน้ำทะเล และรายล้อมไปด้วยปะการังหลากสี ที่นี่จึงเป็นที่ที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด และที่พลาดไม่ได้ คือการที่มีโอกาสที่จะได้ว่ายน้ำพร้อมฉลามวาฬและกระเบนราหู อีกด้วย นับว่าท้องทะเลไทยของเรา ยังคงสวยงามและควรค่าแก่การอนุรักษ์ทรัพยากรเหล่านี้ไว้ ให้ลูกหลานของเรา และนักท่องเที่ยวดำน้ำ ได้ดูได้ชมกันตราบนานเท่านาน ณ เกาะภูเก็ตและเกาะพีพี เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๔
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้