ทัพเรือภาคที่ ๓ โดยศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย - เมียนมา จัดกำลังสนับสนุนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค ๓ บูรณาการร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ตำรวจตระเวนชายแดนฐานปฏิบัติบ้านสามแหลม และชุดปฎิบัติการ ตำรวจตระเวนชายแดนเกาะตราครุฑ หลังจากที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีชาวเมียนมาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยเรือหางยาว ข้ามฝั่งจาก จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา มายังฝั่ง จังหวัดระนอง ณ พื้นที่บริเวณปากแม่น้ำกระบุรี
จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ โดยชุดบูรณาการได้ตรวจพบเรือหางยาวต้องสงสัย ๑ ลำ แล่นออกจากฝั่ง จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา เข้ามาในเขตน่านน้ำไทย พื้นที่บริเวณปากแม่น้ำกระบุรี จังหวัดระนอง จึงประสานชุดลาดตระเวนทางน้ำนำเรือไล่ติดตามจนสามารถหยุดเรือและควบคุมตัวผู้อยู่บนเรือได้ทั้งหมด
จากการตรวจสอบบนเรือ พบชาวเมียนมาจำนวน ๖ คน (ชาย ๒ คน หญิง ๒ คน เด็กชาย ๑ คน และเด็กหญิง ๑ คน) ส่วนคนขับเรือได้หลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดพร้อมเรือหางยาวเครื่องติดท้าย เข้ามาทำการสอบสวน เพื่อขยายผล ณ ที่ทำการ ฐานปฏิบัติการ ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านสามแหลม
จากการซักถามผ่านล่ามของ ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย - เมียนมา ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง และ เมืองมะละแหม่ง ต้องการเดินทางไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท สำหรับค่านำพา โดยจ่ายที่ต้นทางจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายที่ปลายทาง
ต่อมาได้มีผู้มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของเรือ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขยายผลทราบว่าเรือหางยาวลำนี้ชื่อเรือ นาวาอันดามัน ๒ มีนาย อนุชา แสนแก้ว เป็นผู้ครอบครอง จากการสอบถามเจ้าของเรือทราบว่า ได้มี นายเอกพล ฉลาดดี พร้อมพวกได้มาขอเช่าเรือโดยอ้างว่าจะเอาเรือไปตกปลาบริเวณเกาะสินไห จังหวัดระนอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวเมียนมาทั้งหมด ส่งตรวจคัดกรอง COVID-19 ณ โรงพยาบาลระนอง จากนั้นทำบันทึกจับกุมนำส่ง สถานีตำรวจภูธรตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมายังคงปรากฎพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในพื้นที่จังหวัดระนอง เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ที่มีพรหมแดนติดต่อกันเป็นระยะทางที่ยาวกว่า ๒๐๐ กิโลเมตร มีเพียงแม่น้ำกระบุรีเป็นเขตแดนธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ทัพเรือภาคที่ ๓ ยังคงมุ่งมั่นที่ปฏิบัติการปกป้องการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ต่อไป
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้