ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

เสนาธิการทหารเรือลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ กรมอู่ทหารเรือ

 
พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ และ พลเรือโท กำจร  เจริญเกียรติ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะรองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ เป็นผู้แทน พลเรือเอก อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ กรมอู่ทหารเรือ ในพื้นที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖
 
 
 

โดยในเวลา ๐๙.๓๐ น. พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้ร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณวัดบางบ่อ ร่วมกับกำลังพลจิตอาสา หน่วยบรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนนายเรือ และประชาชนในพื้นที่ “เนื่องในวันนวมินทรมหาราช”

จากนั้น เสนาธิการทหารเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจเรือผลักดันน้ำบริเวณใต้สะพานบางบ่อ และใต้สะพานบริเวณโรงพยาบาลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ขณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดนครนายก พลเรือโท กำจร เจริญเกียรติ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะรองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ พื้นที่จังหวัดนครนายก โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติภารกิจเรือผลักดันน้ำบริเวณสะพานโยทะกา ตำบลบางสมบูรณ์ และบริเวณข้ามแม่น้ำนครนายก ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

 

กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้สนับสนุนเรือผลักดันน้ำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดนครนายก และ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ท่วมขังให้ไหลออกสู่ทะเลโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก และน้ำจากทางเหนือที่ไหลผ่านพื้นที่ดังกล่าว โดยในพื้นที่ จังหวัดนครนายก ได้ติดตั้งเรือผลักดันน้ำไว้ ๒ จุด จำนวนจุดละ ๒๐ ลำ และพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ติดตั้งไว้ ๒ จุด จำนวนจุดละ ๔ ลำ  ซึ่งเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ ๙) ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริสำหรับแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ โดยแนวความคิดนี้ กรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบ เพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศจวบจนปัจจุบัน และจากองค์ความรู้ในการสร้างเรือผลักดันน้ำที่ไม่เคยหยุดพัฒนา ทำให้กองทัพเรือสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปี ๒๕๕๔ ได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังเป็นการสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่ โดยเรือผลักดันน้ำของหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ได้พัฒนาเรือผลักดันน้ำ จนมีขนาดเรือ กว้าง ๑.๘ ม. ยาว ๕.๕ ม. สูง ๑.๒๕ ม. กินน้ำลึก ๐.๗๕ ม. เครื่องยนต์ ตราอักษร Volvo รุ่น Penta TAD 720VE กำลัง ๒๓๗ แรงม้า อัตราความสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล ๑๖ - ๒๐ ลิตร/ชม. (ตามความเร็วรอบเครื่อง) มีขีดความสามารถเร่งความเร็วน้ำ ๑๐๐,๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน/ลำ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึงและเป็นคอขวด ซึ่งเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลออกได้ช้า

   

 

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยและวาตภัย ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุ ทั้งนี้สภาพอากาศในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ ประเทศไทยจะมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองกระจายเป็นแห่ง ๆ กับมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นเขื่อนแนวป้องกัน รวมทั้งทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ โดยประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน สามารถแจ้งเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ได้ที่สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ๑๖๙๖ (1696) ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

 

รูปภาพเพิ่มเติม

Related Articles

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้