ค้นหา
ปกติ
ขาวดำ
ดำเหลือง
ขนาดตัวอักษร

ผู้บัญชาการทหารเรืออำนวยการฝึกปัญหาที่บังคับการ ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๗

พลเรือเอก อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ อำนวยการฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX) ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๗ ด้วยตนเอง 
โดยมี พลเรือเอก วรวุธ  พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ตลอดจน ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของศูนย์ปฏิบัติการกองกองทัพเรือ รวมถึงกำลังพลจากฝ่ายต่าง ๆ ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ และหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ เข้าร่วมการฝึก ฯ ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๗

กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือประจำปีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงความพร้อมของหน่วยต่าง ๆในการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ โดยในปีนี้ใช้วงรอบการฝึก ๑ ปี และใช้สถานการณ์ฝึกป้องกันประเทศด้านใต้ซึ่งจะทำการทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร ตามสถานการณ์ที่ถูกกำหนดขึ้น

สำหรับการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๗ นี้ มีพื้นที่การฝึกทั้งในทะเลและบนบกโดยแบ่งการฝึกเป็น ๒ ส่วน คือ ๑. การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) มีวัตถุประสงค์ เพื่อฝึกการควบคุมบังคับบัญชา และทดสอบแนวความคิดในการใช้กำลังและหลักนิยมต่าง ๆ ของหน่วยบังคับบัญชาในระดับต่าง ๆ และ ๒. การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล (Field Training Exercise : FTX) ซึ่งเป็นการฝึกปฏิบัติการของหน่วยกำลังรบประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและประสบการณ์ให้กับกำลังพล รวมทั้งเป็นการทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการต่าง ๆ อาทิ การคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางทะเล การโจมตีกำลังทางเรือของฝ่ายตรงข้าม การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และการป้องกันฝั่ง ซึ่งกำลังทางเรือต้องฝึกการปฏิบัติทางยุทธวิธีตามสาขาปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แก่ การปราบเรือดำน้ำ การต่อต้านเรือผิวน้ำ การป้องกันภัยทางอากาศ การปฏิบัติการพิเศษ การยกพลขึ้นบก รวมทั้งปฏิบัติการข่าวสารและสงครามไซเบอร์ โดยในครั้งนี้จะมีการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น - สู่ - พื้น แบบ Harpoon Block 1C ในทะเลอ่าวไทย และการฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือและอากาศยานอีกด้วย 

นอกจากนั้น ยังมีการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การยิงอาวุธประจำหน่วย และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ของกำลังภาคพื้นดิน ทั้งกำลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมทั้งกองทัพบก และกองทัพอากาศที่ได้จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ด้วย ในขณะเดียวกัน ได้มีการฝึกด้านการส่งกำลังบำรุง (Logistics Exercise: LOGEX) เพื่อทดสอบขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงและการปฏิบัติของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ พร้อมกันไปด้วย 

และที่สำคัญคือ การฝึกในครั้งนี้ ได้มีการเชิญ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( ศรชล.) กองทัพบก และกองทัพอากาศ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในหัวข้อการฝึกต่าง ๆ อีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างขีดความสามารถกำลังพล และยุทโธปกรณ์ อันจะทำให้กองทัพเรือสามารถดำรงบทบาทในฐานะหน่วยงานความมั่นคง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยกองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่เกิดจากธรรมชาติที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือการซักซ้อมและเตรียมการรับมือในช่วงสภาวะปกติ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลให้มีความพร้อมในการดำรงภารกิจป้องกันประเทศ และรักษาความมั่นคงทางทะเล ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำให้หน่วยต่าง ๆ ดำรงการฝึกตามวลีที่ว่า “รบอย่างไรฝึกอย่างนั้น” เพื่อให้เกิดความชำนาญ และความพร้อมในการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย

ในส่วนของการฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX) ที่ได้จัดให้มีการฝึกในครั้งนี้ เป็นการฝึกทดสอบกระบวนการวางแผนและการตัดสินใจตามกระบวนการวางแผนทางทหาร การทดสอบการอำนวยการยุทธ์ตามคำสั่งยุทธการในระดับกองทัพเรือ หน่วยเตรียมกำลัง หน่วยใช้กำลัง หน่วยสนับสนุน และ กองกำลังเฉพาะกิจ ในขั้นสถานการณ์ปกติจนถึงขั้นความขัดแย้งระดับต่ำ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการจัดทำคำสั่งยุทธการเพื่อนำไปใช้ในการอำนวยการยุทธ์ โดยมีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง อาทิ การป้องกันฐานทัพเรือและการควบคุมเรือ การปฏิบัติการข่าวสาร การส่งกำลังบำรุง การปฏิบัติการสงครามไซเบอร์และการบังคับใช้กฎหมายในทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกการปฏิบัติการของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เพื่อสร้างแนวทางที่ชัดเจนด้านการสนธิกำลัง ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อาทิ แนวความคิดในการควบคุมเส้นทางเรือพาณิชย์ 

ทั้งนี้ ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๗ นั้น นอกจากกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกจะได้รับความรู้ ความชำนาญเพิ่มขึ้นจากการฝึกแล้ว ยังทำให้กองทัพเรือได้รับทราบถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของกำลังทางเรือที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกันกับ ศรชล. และ เหล่าทัพ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะในการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยขีดความสามารถของกำลังทางเรือที่เตรียมไว้สำหรับการทำสงคราม ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในยามปกติได้อีกด้วย

Related Articles

แบบสำรวจ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ ทร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ ทร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้