กองทัพเรือ

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) พร้อมคณะผู้ติดตาม เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วย ศรชล. จังหวัดกระบี่ จังหวัดสตูล และจังหวัดตรัง พร้อมเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ในประเด็นสำคัญอันประกอบด้วย การจัดกิจกรรมของ ศรชล.จังหวัด ทั้ง ๒๒ จังหวัดพร้อมกัน ในโอกาส ๗๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การซักซ้อมการปฏิบัติระหว่างส่วนราชการ และภาคพลเรือนในพื้นที่ ณ จังหวัดกระบี่ จังหวัดสตูล และจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗

โดยได้มอบนโยบายให้หน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่ ศรชล.จังหวัด ต้องทำงานให้ประชาชนเชื่อใจ ดำเนินการอย่างรวดเร็ว รวมถึงได้มอบแนวทางตามนโยบายรัฐบาล ให้เน้นย้ำด้านการปราบปรามการกระทำความผิดทางทะเล ได้แก่ การลักลอบขนยาเสพติดทางทะเล การลักลอบขนถ่ายและนำเข้าน้ำมันปาล์ม การเตรียมกำลังพลให้มีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทางทะเลอยู่ตลอดเวลา รวมถึงได้มีการหารือข้อราชการในการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลกับผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้แทน ในฐานะ ผอ.ศรชล.จังหวัดซึ่งประกอบด้วย นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และนายทรงกรด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ณ ศาลากลางจังหวัดของทั้งสามจังหวัด ตามลำดับ

สำหรับการเดินทางไปตรวจเยี่ยม พื้นที่ของผู้บัญชาการทหารเรือ /รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการในพื้นที่ และรับทราบปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้อง และมอบนโยบายในการทำงานของหน่วยงานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัด โดย รอง ผอ.ศรชล. มีแผนเดินทางตรวจเยี่ยม ศรชล.จังหวัด ทุกพื้นที่จนครบ ๒๒ จังหวัด เพื่อให้การทำงานของ ศรชล.ในพื้นที่ต่าง ๆ ดำเนินการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ศรชล. มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศรชล. โดยมุ่งเน้นความมั่นคงทางทะเลแบบองค์รวม จึงมีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานหลักของ ศรชล. ๗ หน่วยงาน ในการบังคับใช้กฎหมายในทะเลและให้ความคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

สำหรับผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ
๑. การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในทะเล
๒. การส่งกลับผู้เจ็บป่วยสายแพทย์ การบูรณาการหน่วยงานทางทะเลและหน่วยงานความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล
๓. การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง
๔. การส่งเสริมการท่องเที่ยว
๕. การสร้างความตระหนักรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อตอบสนองภารกิจในการจัดการแก้ไขปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานของรัฐในการป้องกัน ปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล